พิชิตหลุมยุบลึก 160 เมตร
พิชิตหลุมยุบลึก 160 เมตร
ทีมเสพติดเขา
ถ้าพูดถึงจังหวัดกาญจนบุรีใครหลาย คนคงนึกถึง น้ำตกสวยๆ ล่องแพชิคๆ เส้นทางรถไฟสายมรณะ เมืองประวัติศาสตร์ แต่ครั้งนี้ เราอยากให้คุณมองกาญจนบุรีในอีกรูปแบบหนึ่งธรรมชาติสุด Unseen ที่ต้องบุกป่า ฝ่าดง โรยตัว สัมผัสความยิ่งใหญ่ของหุบเขา ที่ทำให้คุณต้องร้องว่าอะเมซิ่งจิงเกอเบลลลลลลลล
เริ่มออกเดินทางจากกรุงเทพฯ ครั้งนี้เราได้รับการสนับสนุนการเช่าจากบริษัท ไทยอินเตอร์เนชั่นแนล เรนท์ อะ คาร์ จำกัด ภายใต้แบรนด์ เอวิส เรนท์ อะ คาร์ (AVIS) ซึ่งมีสาขาบริการ รวมกว่า 29 สาขา สามารถสำรองรถเช่าล่วงหน้าได้ที่ www.avisthailand.com
จากกรุงเทพฯ ถึงกาญจนบุรี ใช้เวลาเพียงสองชั่วโมงครึ่งก็ถึง จุดเริ่มเดินที่วัดพุไม้แดง ครั้งนี้เราตั้งใจไปสำรวจหุบเขาที่ยังไม่เปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยว เราสามารถติดต่อคนนำทางหรือพรานได้ที่ทางเทศบาลตำบลลุ่มสุ่ม
เริ่มเดินจากหลังวัดพุไม้แดง ป่านี้ไม่มีลูกหาบ ด้านบนไม่มีแหล่งน้ำ แต่ก็ยังมีหญ้าเขียวๆพอให้เพลินใจ

ระยะทางเดินเท้าประมาณ 8-9 กิโลเมตร ไปกลับราวๆ 16 กิโลเมตร ทางเดินส่วนใหญ่เป็นป่าไผ่ บางจุดต้องปีนป่ายข้ามหินตะปุ่มตะป่ำเกือบทั่วบริเวณและค่อนข้างคม ควรเตรียมพร้อมให้ดี แนะนำว่าควรพกถุงมือ ต้องยอมรับเลยว่าเป็นป่าที่เหนื่อยเอาเรื่อง นอกจากสัมภาระส่วนตัวแล้ว ยังมีเชือก อุปกรณ์โรยตัว อีกที่เพิ่มเข้ามา เมื่อเดินมาถึงจุดกางเต้นท์ ก็ตั้งแคมป์ไว้ก่อน แล้วค่อยเดินไปสำรวจหลุมยุบ


ตลอดทางเดิน ก่อนถึงปากหลุมยุบ มีต้นไผ่เล็กๆขึ้นเต็มสองทางเดินเหมือนปูไปด้วยพรมสีเขียวขจีสวยมาก ปากปล่องหลุมยุบมีลักษณะเป็นเขาหินปูน ส่วนใหญ่เต็มไปด้วยไม้พุ่มแคระ หรือไม้ยืนต้นบางชนิดเท่านั้น เช่น จันทร์ผา ปรงเขา สลัดได ไทร หญ้า เฟิร์น ฯลฯ

เมื่อถึงปากหลุม ถึงกับต้องร้องว้าว ให้กับความอลังการของปากหลุมยุบขนาดใหญ่ มันหย่ายยยยมากค่ะ เราทำการบินโดรนสำรวจรอบๆ ปากหลุมทันที แต่ก็ต้องตะลึงอีกครั้ง เมื่อพบว่ามีอีกหลุมอยู่ติดกันซึ่งมีขนาดใหญ่กว่า พวกเราไม่รอช้ารีบพุ่งไปอีกหลุมทันที




เมื่อมองลงไปด้านล่างเท่าที่เห็นมี ต้นปรง ต้นไทร ต้นกล้วยต้นตาลขนาดสูง และพืชพันธุ์หน้าตาแปลกๆ ดูลึกลับน่าค้นหา หนาแน่นเต็มหลุม ป่าด้านล่างมีความสมบูรณ์อยู่มาก เนื่องจากที่นี่ยังไม่เคยมีใครลงไปสำรวจมาก่อนทำให้เราไม่รู้ว่าข้างล่างมีอะไรบ้าง แต่ดูลึกลับมาก เหมือนหลุดมาอีกโลกหนึ่งจนไม่น่าเชื่อว่าที่นี่คือ กาญจนบุรี
ตอนแรกเราทำการลองทดสอบการโยนหินก้อนใหญ่ลงไปด้านล่างจับเวลาได้ 8 วินาที หินร่วงถึงพื้น ซึ่งตอนนั้นคิดแล้วว่าหลุมนี้ลึกมากกว่า 100 เมตรแน่นอน พวกเราไม่รอช้า ทำการเคลียพื้นที่ เซ็ทเชือก 200 เมตร ลงสำรวจหลุมทันที แต่ด้วยความที่ยังไม่มีใครเคยลงไปสำรวจหลุมนี้มาก่อน ฉะนั้นเราจะต้องรอบคอบและให้เกิดความปลอดภัยมากที่สุด



เมื่อลงมาได้ 20 เมตรแรกเป็นการโรยตัวผ่านกอไผ่หนามและผาหินลาดเอียง 80 องศา ตลอดระยะทางลง80 เมตรต้องตัดผ่านดงหนามไม้เลื้อยที่ขึ้นพันกันหนาแน่นใช้เวลาตัดช่องเพื่อโรยตัวผ่านให้ได้ ใช้เวลานานนับชั่วโมงต้นไม้หนามเหล่านี้ผ่านกาลเวลาเติบโตหลายร้อยปี มีตั้งแต่ขนาดนิ้วก้อยรูปร่างลำต้นเป็นแบบไม้หนามทั่วไป จนถึงขนาดลำแขนผู้ใหญ่ ยากต่อการตัดช่องผ่านได้ มีบางช่วงระยะ 40 เมตร เป็นหน้าผาหินตัดตรง ผาหินนั้นเป็นรูป ผลมะเฟือง แหลมคมมาก ต้องระมัดระวังในการหลบไม่ให้เชือกถูกความคมราวกับใบมีดโกนของหินมะเฟือง เมื่อผ่านมาได้แล้ว
40 เมตรสุดท้ายก่อนถึงพื้นมีต้นไทรใหญ่ พอยืนพักให้หายเหนื่อยได้ เมื่อเลยต้นไทรใหญ่ลงมาเป็นผาตัดคล้ายโถงถ้ำตื้นๆ เราโรยตัวลงเหมือนลอยอยู่ในอากาศ เพราะมีเชือกอย่างเดียวที่ยึดตัวเราไว้บรรยากาศรอบข้างค่อยๆ มืดลงตามความลึกของหลุมยุบ อากาศเย็นสบายเป็นเพราะได้ร่มไม้โบราณสูงใหญ่ ลำต้นมีแต่เฟิร์นและกล้วยไม้เกาะกันแน่นจนไม่เห็นเปลือกไม้ คล้ายต้นไม้ห่มผ้าสีเขียว ก่อนเราจะถึงพื้นระยะ 20 เมตร สุดท้าย มีใบปาล์มขนาดใหญ่บดบังทางลง เราต้องแหวกใบปาล์ม ก่อนจะสัมผัสพื้นดินหลุมยุบ พื้นที่หลงสำรวจ ซึ่งคาดว่ายังไม่เคยมีสิ่งมีชีวิต ได้ลงมา ณ ที่แห่งนี้ ทำการเดินสำรวจรอบๆด้านล่าง ไม่มีรอยเท้าสัตว์ใดๆ เลย บรรยากาศโดยรอบเหมือนหลุดเข้าไปในหนัง จูราสสิคพาร์ค บรรยากาศรอบข้างเงียบงันชวนขนลุก



แต่หลุมยุบเขาพุไม้แดงหลุมที่ 2 นี้ วัดจากความยาวเชือกที่เหลือพบว่าจากจุดโรยตัวลงปากหลุมจนถึงก้นบ่อมีความยาวประมาณ 160 เมตร ความสูงของภูเขาวัดได้ 442.7 เมตร




แค่วันแรกตอนนี้ก็แทบจะหมดแรงแล้ว


คืนนี้เลยทำการแปลงร่างแล้วปิ้งไก่ คอหมูย่างกัน




เช้าวันสุดท้ายก่อนกลับเราทำอาหารกับแบบง่ายๆ มีคั่วกลิ่งผัดสะตอ, น้ำพริกกะปิ จากนั้นเตรียมตัวเก็บของแล้วเดินทางต่อไปยัง จุดชมวิว ” เนินสวรรค์” จากจุดชมวิวเนินสวรรค์จะเห็นทิวทัศน์ของขุนเขาสลับซับซ้อนไกลสุดลูกหูลูกตา


และแล้วก็ได้เวลาโบกมือลาความสนุก กับการได้มาเยือนกาญจนบุรีในครั้งนี้ ถือว่าไม่ผิดหวังเลย สถานที่ที่น่าตื่นตาตื่นใจ ดื่มด่ำทุกอณูของธรรมชาติ สูดลมหายใจได้เต็มปอดอีกครั้ง มันทำให้เราได้กล้าออกไปผจญภัยและทุกเรื่องเราสามารถทำให้มันเป็นไปได้ ก้าวข้ามขีดจำกัดของตัวเอง เมืองไทยยังมีอีกหลายมุมให้เราได้ออกไปค้นหา เมืองไทยสวยทุกที่ เท่ทุกสไตล์
