Day..1

เราเดินทางด้วยสายการบิน Thai Smile จากสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ มุ่งหน้าสู่จังหวัดกระบี่ เมื่อถึงปลายทาง เราก็มีบริการรถเช่าจากAVIS Thailand ไว้คอยรอต้อนรับเรา

จากนั้นเรามุ่งหน้าสู่ บ้านช้างภูตาจอรีสอร์ทแอนด์แคมปิ้ง

www.facebook.com/baanchangphutajorresortandcamping/

เพื่อเป็นสถานที่พักของเรากันในค่ำคืนนี้ หลังจากที่เราเดินทางกันมาทั้งวัน

เมื่อเราไปถึงเราก็ติดต่อขอห้องพักที่เราจองไว้ และ อาหารสำหรับมื้อค่ำที่เราได้สั่งไว้ล่วงหน้า จากนั้นก็ถึงเวลาที่เราพักผ่อนเอาเเรงเพื่อการเดินทางสำหรับวันพรุ่งนี้

Day..2

เช้ามืดของวันที่2กับการเดินทางของพวกเราในครั้งนี้ เราเตรียมตัวที่จะขึ้นไปชมวิวทะเลหมอกที่ จุดชมวิวทะเลหมอกภูตาจอ

การเดินทางไปนั้น จัดได้เลยว่าต้องเป็นคนที่ชอบในการผจญภัยและชอบความท้ายทายพอสมควร เพราะเราต้องนั่งรถ 4×4 เป็นระยะเวลา2ชั่วโมง กับระยะทาง 15-16 กิโลเมตร ด้วยสภาพทางที่ชันและดินเป็นร่องลึก จากนั้นเราจะต้องเดินเท้าต่ออีกประมาน 500เมตร เพื่อขึ้นไปจุดสูงสุดของจุดชมวิวทะเลหมอกภูตาจอ

แต่ขอบอกว่า มันคุ้มค่ามากกับระยะเวลาและระยะทางที่เราบากบั่นกันมา เราจะได้พบกับ ทะเลหมอกนุ่มฟูสีขาวนวลตาสลับกับสีเขียวของต้นไม้ใหญ่น้อยที่มองกี่ครั้งเราก็รู้สึกดี รู้สึกว่าตลอดระยะทางที่เราผ่านมา มันทำให้เราหายเหนื่อย มีแต่ความสดชื่นของอากาศที่บริสุทธิ์ ปราศจากมลพิษ นับว่าเป็นการเดินทางที่คุ้มค่ามาก…

“ ภูตาจอ ” เป็นจุดชมวิวที่มีความสูงที่สุดของเมืองพังงา ตั้งอยู่ในเขตพิทักษ์พันธ์สัตว์ป่าโตนปริวรรต ตำบลเหล อำเภอกะปง ถือได้ว่าเป็นอำเภอในม่านหมอกที่มีความสวยงามและอากาศที่ดีเมืองนึงเลยก็ว่าได้

หลังจากเราเต็มอิ่มกับทะเลหมอกภูตาจอ เราก็เดินทางกันต่อเพื่อไปพิชิต น้ำตกโตนต้นหมาก น้ำตกสวยงามกลางป่าซึ่งอยู่ระหว่างทางไปจุดชมวิวทะเลหมอกภูตาจอ แต่เราจะต้องเดินเท้าเข้าไปยังน้ำตกประมาน 500 เมตร ใช้ระยะเวลาเดินเท้าประมาน 15-20 นาที แล้วเราจะพบกับความสวยงามของน้ำตกโตนต้นหมาก

เป็นน้ำตกที่ไหลลงมาจากร่องเขาที่ขนาบกันสองข้าง น้ำใส และเย็นชื่นใจ คุ้มค่ากับการได้มาสัมผัสด้วยตาตัวเอง…

กิจกรรมของเรายังไม่หมดเพียงเท่านี้ เรากำลังจะพาทุกคนไปสัมผัสบรรยากาศ The Little Amazon หรือเรียกว่า คลองสังเน่ห์  ซึ่งมีกิจกรรมให้เราพายเรือชมความงามของป่าไทรโบราณริมคลองสังเน่ห์ มีสัตว์น้อยใหญ่นานาชนิด เช่น ลิง กระรอก กระแต นกเเก๊ก และพระเอกของที่นี่คือ งูปล้องทอง งูเขียว และงูเหลือม ซึ่งจะถูกพบเจอได้ง่ายในพื้นที่แห่งนี้

อีกทั้งยังมีพืชพรรณนานาชนิดที่สมบูรณ์ จึงได้ถูกขนานนามว่าเป็น  ป่าอะเมซอน

ก่อนดวงตะวันจะลาลับไป ก่อนไฟดวงนี้จะเลือนหายไป ฉันจะมีเธออยู่ ให้เธอรู้ในความรู้สึก…เพลงของสิงโตนำโชคลอยมาพร้อมกับความคิดถึงในขณะที่เรานั่งชมพระอาทิตย์ตกดินที่หาดท้ายเหมือง ก่อนที่ดวงตะวันจะค่อยๆจางลับตาไป นับเป็นช่วงเวลาที่ทำให้ความคิดถึงของเรานั้นมีความทรงจำมากขึ้นไปอีกครั้งกับการเดินทางในครั้งนี้….

สำหรับค่ำคืนนี้เราจะพักกันที่ โฮมสเตย์บังไข่ เขาไข่นุ้ย เพื่อที่พรุ่งนี้เช้าเราจะได้ชมวิวทะเลหมอกเขาไข่นุ้ยกัน

“ อาหารของเราในค่ำคืนนี้ ที่บังไข่ได้เตรียมไว้รอพวกเรา ขอบอกว่าเยอะและอร่อยมากกกก ”

…. เสียงปลุกกลางดึกในยามค่ำคืน ทำให้เราตกใจตื่น พี่เราเดินมาบอกว่า ทางช้างเผือกขึ้นชัดแล้ว ไม่รอช้า คว้ากล้องและขาตั้งกล้องรีบเดินจากห้องพักออกไปหามุมถ่ายกัน….

Day..3

ค่ำคืนของการเดินทางได้ผ่านพ้นมาจวบจนถึงเช้าวันที่3ของการเดินทาง เราตื่นเช้ามาพร้อมกับทะเลหมอกเขาไข่นุ้ย ทะเลหมอกที่ขาวฟูนวลตากับบรรยากาศยามเช้าที่แสนสดชื่น และอาหารเช้าที่แสนอร่อย รวมถึงการดูแลอย่างเป็นกันเองของ บังไข่ และ พี่ลี่ เจ้าของโฮมสเตย์…

หลังจากที่เต็มอิ่มกับวิวหลักล้านและอาหารรสชาติเยี่ยมเราก็พร้อมที่จะต้องเก็บของเพื่อเตรียมตัวเดินทางกลับกันแล้ว…

แน่นอนครับว่า ไม่มีการเดินทาง หรือ ความคิดถึงครั้งใด ที่ไม่มีวันสิ้นสุด เราต้องกล่าวคำอำลา จังหวัดพังงา ไปด้วยความสุขล้นที่ได้รับจากการเดินทางครั้งนี้ เพราะตลอดระยะเวลาสามวันที่เราได้ใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ เราได้รับ รอยยิ้ม น้ำใจ และความสุขจากผู้คนที่นี่ ที่ได้มอบให้พวกเรา เราสัญญาว่า เราจะเก็บห้วงเวลาเหล่านี้ไว้ในความทรงจำ และ เราก็คงจะคิดถึงมันตลอดไป…

ถ้าคุณอยากพิชิตความคิดถึง…คุณก็แค่ไปให้ถึง
แล้วคุณล่ะพร้อมที่จะออกเดินทางกันหรือยัง…?

…………………………………………………………

สำหรับการเดินทางของพวกเราในครั้งนี้ พวกเราต้องขอขอบคุณสายการบิน Thai Smile ที่สนับสนุนการเดินทางของพวกเราในครั้งนี้ และ ยังมีบริการรถเช่าของ AVIS Thailand ที่ให้เราได้ออกเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆในจังหวัดพังงาด้วย…

#Amazingไทยเท่competition2020
#Conquerorสายพิชิต #TeamTheTravelworld
#โลกของคนเดินทาง #พังงา #ททท #เที่ยวภาคใต้