ชัยภูมิ…ดินแดนอีสานสีเขียวที่ไม่ควรพลาด!
ชัยภูมิ…ดินแดนอีสานสีเขียวที่ไม่ควรพลาด!
ทีมผมม้า
เมื่อเข้าสู่เดือนหกหยดละอองจากฟากฟ้าก็ร่วงหล่นลงมาเป็นเม็ดฝนให้ชุ่มชื้นทั่วทั้งแผ่นดินอย่างไม่ขาดสาย ภูเขา ต้นไม้ ใบหญ้า ผืนป่าต่างพากันเขียวขจีต้อนรับฤดูฝน หลายๆ คนอาจจะมีความคิดที่ว่า ฤดูฝนไม่เหมาะแก่การท่องเที่ยว แต่สำหรับทริปนี้อยากให้ทุกคนเปิดใจ เพราะฤดูฝนน่าเที่ยวกว่าที่คิด โดยเฉพาะที่…ชัยภูมิ ดินแดนอีสานสีเขียว
การเดินทางสู่ชัยภูมิ 3 วัน 2 คืน ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกของเราเลยนะ ตื่นเต้นมากๆ เลย ไม่รู้ว่าจะได้ไปเจอกับอะไรบ้าง
แน่นอนว่าเรามีการแพลนทริปเที่ยวกันแบบคร่าวๆ เอาที่แบบว่าทุกคนสามารถเดินทางตามรอยเราไปได้เลย
Day 1
01 เสาหินที่มอหินขาว
02 ทุ่งกระมัง เดินเล่น ขับรถ ถ่ายรูปทุ่งหญ้าสีเขียวๆ
03 เข้าที่พัก Pocket Park ชัยภูมิ
Day 2
04 กราบสิ่งศักดิ์สิทธิ์พระธาตุชัยภูมิ
05 น้ำตกตาดโตน
06 ก๋วยเตี๊ยวแม่น้อยกับตัวตุ่น
07 ปรางค์กู่ โบราณสถาน
08 ต้นไม้คาเฟ่
Day 3
09 ดูดอกกระเจียวที่ป่าหินงาม
10 ผาสุดแผ่นดิน
11 ที่พัก สะเลเต ชาเล่ต์ ชัยภูมิ
12 เขื่อนลำปะทาว
ได้เวลาเดินทางไปกับเราแล้วนะ แต่ก่อนเดินทางไปชัยภูมิช่วงฤดูฝนแบบนี้
อย่าลืมใส่รองเท้าที่พร้อมลุย แต่คงความคูล ความเท่ห์ ไว้อย่าง Keen ด้วยน้า
สวมรองเท้าแล้วมา…ลุยกันเลย!!!!!

จังหวัดชัยภูมิห่างจากกรุงเทพฯ ประมาณ 300 กิโลเมตร การเดินทางก็สามารถขับรถไปได้เลย หรือถ้าให้สะดวกสบายมีเวลาเที่ยวได้เยอะๆ ก็ต้องบินไปเลยจ้า ครั้งนี้เราบินไปกับสายการบินแอร์เอเชีย บินคุ้ม คุณภาพครบมากกกก แถมราคาก็น่ารัก ที่สำคัญคือ ตรงเวลาสุดๆ แอบบอกว่าเครื่องลงถึงก่อนเวลาด้วยนะ ที่นั่งเบาะก็กว้างยืดขาได้สบาย ยิ่งช่วงนี้มีโรคระบาดก็ดูแลรักษาความสะอาดความปลอดภัยอย่างดี มีการฉีดพ่นฆ่าเชื้อเครื่องบินอยู่เสมอ แต่ๆ ชัยภูมิไม่มีสนามบินนะ ต้องไปลงขอนแก่น จากขอนแก่นมาชัยภูมิใช้เวลา 1 ชั่วโมงกว่าๆ เอง ใกล้มากๆ อย่าลืมว่า จะเดินทางครั้งใดนึกถึงแอร์เอเชียด้วยนะ พอลงเครื่องแล้วก็เช่ารถต่อเลยจ้า แนะนำเป็นรถเช่าจาก Avis Thailand ที่มีอยู่ในสนามบินขอนแก่นเลยนะ

แล้วจะบอกเลยว่า มีสาขาเยอะมากๆ เอาเป็นว่าไปจังหวัดไหนก็มองเห็นป้ายสีแดงๆ แบบนี้ตลอดเลย ราคาก็สบายๆ เริ่มต้นหลักร้อยต่อวัน รถแต่ละคันมีการดูแลรักษาอย่างดี เช็คสภาพการใช้งานอยู่เสมอๆ ทำให้รถพร้อมใช้งานทันที และเราก็ขับมุ่งตรงจากสนามบินขอนแก่น สู่จังหวัดชัยภูมิกันเลยจ้า เจ้า Avis คันนี้จะพาเราไปตะลุยชัยภูมิ..ดินแดนสีเขียวกัน!
Day 1
01 มอหินขาว
เริ่มต้นกันที่มอหินขาว สถานที่ขึ้นชื่อของจังหวัดชัยภูมิ ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติภูแลนคา เป็นกลุ่มหินทรายสีขาววางเรียงรายคล้ายกับ “สโตนเฮนจ์” ในประเทศอังกฤษ มอหินขาว จึงได้รับการขนานนามอีกชื่อหนึ่งว่า “สโตนเฮนจ์เมืองไทย”



02 ทุ่งกระมัง
ทุ่งกระมัง เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว ผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์ ยังมีธรรมชาติที่แสนบริสุทธิ์ มีจุดท่องเที่ยวที่สำคัญ คือ ทุ่งกะมัง ที่ราบทุ่งหญ้ากว้างใหญ่กษณะคล้ายแอ่งกะละมังอยู่กลางผืนป่า เป็นแหล่งอาหารชั้นดีของเหล่าเก้งกวาง และสัตว์ป่านานาชนิด มีการนำเอาดินโป่ง มาใส่ไว้เป็นจุดๆ เพื่อให้สัตว์ป่าได้มากิน จึงทำให้สามารถพบเห็น เหล่าบรรดาเนื้อทราย เก้ง กระจง ออกมาหา อาหารโดยเฉพาะในช่วงบ่ายจะพบเห็นได้มากที่สุด เรียกว่าเหมือนเราได้มาท่องซาฟารีแห่งเมืองไทยก็ย่อมได้


หญ้าสีเขียวๆ นุ่มมากกกกก อยากให้ลองได้มาสัมผัสจริงๆ แถมสีเขียวก็สบายตาสุดๆ แล้วเจอน้องกวางด้วยนะ

น้องน่ารักมากๆ นั่งนิ่งๆ ประดุจว่าเป็นนายแบบนางแบบเลยแหละ


มาเดินกลางทุ่งแบบนี้ อย่าลืมพกน้ำดื่มมาด้วยนะ แต่ยุคนี้ใครพกขวดน้ำพลาสติกคือเฉยมากนะ ต้องนี่เลยขวดน้ำของ Earth Well เก็บความเย็นได้ดีมากกกกกก เรียกได้ว่าเหนื่อยๆ กระหายน้ำก็ดื่มได้ชื่นใจเลย

จุดนี้บอกเลยว่าห้ามพลาดที่จะมาแช๊ะภาพกับซุ้มต้นสน สวยมากจริงๆ

ระหว่างทางลงกลับตัวเมืองชัยภูมิ ฟ้าสวยมากๆ หมอกมาเต็มเลย เพราะว่าฝนตกนั่นเอง
03 เข้าที่พัก Pocket Park ชัยภูมิ
ถ้าตามหาที่พักหลักร้อยอยู่ใจกลางเมืองชัยภูมิ แนะนำเป็นที่นี่เลย Pocket Park สะดวก สะอาด แอร์เย็นช้ำ ห้องน้ำก็น้ำแรงรวดเร็วทันใจดีมากกกกกกก

Day 2
04 กราบสิ่งศักดิ์สิทธิ์พระธาตุชัยภูมิ
พระมหาธาตุรัชมงคลเจดีย์สิริชัยภูมิ หรือ พระธาตุชัยภูมิ ตั้งอยู่อำเภอแก้งคร้อ จังหวัดชัยภูมิ ประดิษฐานอยู่ ณ วัดอรุณธรรมสถาน บนเนินสูงของภูแลนคาเป็นที่บรรจุพระธาตุ มีอาคารและสิ่งก่อสร้างที่มีศิลปทางสถาปัตยกรรมที่สวยงาม มองเห็นวิวแบบพาโนรามารอบทิศที่สดชื่นสบายตา ที่นี่ยังเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมที่ผู้คนที่สนใจในการฏิบัติธรรมเข้ามาปฏิบัติธรรม เนื่องจากว่าเป็นวัดที่สงบ บรรยากาศร่มรื่นและเต็มไปด้วยธรรมชาติ



05 น้ำตกตาดโตน
น้ำตกตาดโตน เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัดชัยภูมิ ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติตาดโตน เป็นลานหินกว้างประมาณ 50 เมตร และยาวไปตามลำน้ำ ประมาณ 300 เมตร ทำให้ธารน้ำไหลผ่านมาตามลานหิน มีแอ่งน้ำเป็นจุดๆ เหมาะแก่การเล่นน้ำ พักผ่อนชมธรรมชาติ และมีน้ำตลอดปีด้วยนะ



06 ก๋วยเตี๊ยวแม่น้อยกับตัวตุ่น
ร้านก๋วยเตี๊ยวขึ้นชื่อของจังหวัดชัยภูมิ ใครที่มาไม่ควรพลาดนะ

07 ปรางค์กู่ โบราณสถาน
โบราณสถานคู่บ้านคู่เมืองของชัยภูมิ แต่มีความงดงามด้วยสถาปัตยกรรมที่ได้รับอิทธิพลจากขอม เชื่อกันว่าเป็นอโรยาศาล(โรงพยาบาล) ในสมัยก่อน คำว่าปรางค์กู่นั้น เป็นชื่อเรียกของกลุ่มอาคารที่มีแผนผังและลักษณะแบบเดียวกันกับอาคารที่ เชื่อกันว่าเป็นอโรคยาศาลที่สร้างขึ้นในพุทธศตวรรษที่ 18 ในสมัยของพระเจ้าชัยวรมัน

08 ต้นไม้คาเฟ่
คาเฟ่สีเขียวๆ เอาใจคนรักธรรมชาติ เครื่องดื่มรสชาติดีมากๆ ต้องลองไปกันน้า


ระหว่างทางก็ขับผ่านสีเขียวๆ สวยงามมากกกกก

Day 3
09 ดูดอกกระเจียวที่ป่าหินงาม
ทุ่งดอกกระเจียว ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติป่าหินงาม อำเภอเทพสถิต ถือเป็นไฮไลท์ท่องเที่ยวช่วงฤดูฝน นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับ ทุ่งบัวสวรรค์ หรือ ทุ่งดอกกระเจียว ราชินีแห่งมวลไม้ดอกของขุนเขาป่าหินงาม ซึ่งจะผลิบานเป็นระยะเวลา 2 เดือน ต่อปี ชูช่อชมพูอมม่วง ตัดกับพื้นเขียวขจีของหญ้าเพ็ก และโขดหินธรรมชาติ คืนความสดใสให้ผืนป่า ทุ่งดอกกระเจียว ป่าหินงาม ถือเป็น ทุ่งดอกกระเจียว ที่ใหญ่ที่สุด และงดงามที่สุดในประเทศไทยอีกด้วย การที่เราได้มาครั้งนี้ถือได้ว่าคุ้มค่ามากจริงๆ เพราะมาจังหวะช่วงที่บานพอดีเลย


มุมถ่ายรูปต่างๆ ก็เยอะมากๆ แต่ใครที่จะเดินทางไป ฝากไว้สักนิดนะ ห้ามลงไปเดินในทุ่ง หรือไปยืนถ่ายรูปในทุ่งเด็ดขาด หรือเด็ดดอกไม้ใดๆ ห้ามเลยนะ ไปเที่ยวแล้วต้องช่วยกันรักษา ดูแลธรรมชาติให้อยู่คู่เราไปนานๆ นะ
10 ผาสุดแผ่นดิน
อยู่ห่างจากทุ่งดอกกระเจียว 350 เมตร เป็นจุดสิ้นสุดของแผ่นดินชัยภูมิ สามารถมองเห็นจังหวัดลพบุรีได้เลย

11 ที่พัก สะเลเต ชาเล่ต์ ชัยภูมิ
ที่พักชื่อเก๋ สไตล์บาหลี ผสมผสานความเป็นแม็กซิกันอย่างลงตัว ตั้งอยู่บริเวณไหล่เขา อยู่ใกล้กับอุทยานแห่งชาติป่าหินงาม ห่างกันเพียง 300 เมตรเท่านั้น รูปทรงบ้านจะเป็นกระโจม ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้านจริงๆ เครื่องอำนวยความสะดวกมีครบครัน แอร์ ทีวี ตู้เย็น เครื่องทำน้ำอุ่น ไดร์เป่าผม ที่ชอบที่สุดคือห้องน้ำ น่ารักกกกก ราคาไม่แพงด้วยนะ มีอาหารเช้าให้ด้วย เรียกได้ว่ามาที่นี่ประทับใจสุดๆ อย่างแน่นอน


12 เขื่อนลำปะทาว
เขื่อนกลางเมืองชัยภูมิ ที่สามารถนั่งแพเล็กๆ ไปทานอาหาร เล่นน้ำ กลางเขื่อนได้เลย บรรยากาศดีมาก ลมเย็นสบาย ค่าแพเริ่มต้นที่ แพละ 300 บาท ไปกันหลายคนก็เหมาๆ หารกันตกคนละไม่กี่บาทเองนะ ต้องลองไปกัน

ท้ายที่สุดนี้ จังหวัดชัยภูมิสีเขียวแห่งดินแดนภาคอีสาน ยังคงรอทุกคนให้ไปสัมผัสอยู่…แล้วพบกันนะ