กิจกรรม ทำดีก่อนตาย “ค่ายอาสาพัฒนา รร.บ้านฉู่ฉี่,สมุทรสงคราม”
กิจกรรม ทำดีก่อนตาย “ค่ายอาสาพัฒนา รร.บ้านฉู่ฉี่,สมุทรสงคราม”
ทีมไปก่อนตาย (I’m traveler)
Hello ชาว Traveler ทู้กกกกคน แพนไม่ค่อยได้เขียนบทความเกี่ยวกับค่ายอาสาเท่าไหร่ ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องเที่ยวซะมากกว่า ครั้งนี้ถือเป็นค่ายนึงที่แพนจัด แพนจัดค่ายใหญ่เป็นครั้งที่ 2 แล้วค่ะ ปกติจะทำงานอาสาเล็กๆไม่ต้องมีการเตรียมการหรือเตรียมคนมากนัก เนื่องด้วยการระดมทุนค่อนข้างยากนั่นเอง

สำหรับค่ายอาสาครั้งนี้แพนได้งบสนับสนุนจากโครงการของ “Amazing ไทยเท่ Competition 2020” เป็นงานประกวดการนำเสนอวิถีท่องเที่ยวมุมมองใหม่ แพนผ่านเข้ารอบ Final จึงได้งบมาทำตรงนี้ แพนบอกตรงๆนะ เงิน 10,000 บาท กับการสร้างค่ายอาสา 3 วัน 2 คืน ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย บางทีแพนแค่นำเงินไปซื้อของแล้วแจกเด็กๆก็น่าจะจบแล้ว แต่มันมีความคิดนึงในหัว “ถ้าจะทำอะไรต้องทำให้สุด และทำให้เงินก้อนนี้คุ้มค่าที่สุดเช่นกัน ทั้งกับผู้รับและตัวผู้ให้เอง” แพนมีคนสมัครเข้ามาร่วมเป็นจิตอาสารวม 30 คน จึงใช้การเรี่ยไรเพิ่ม บางคนให้ 500 บางคน 100 แต่บริจาคเป็นสิ่งของ สี และอื่นๆทดแทน
Highlight ของค่ายเรา
- ล่องเรือชมป่าชายเลน
- จัดกิจกรรมนักเรียน แจกของรางวัล
- เลี้ยงอาหารกลางวันเด็กๆและคณะจิตอาสา
- เก็บขยะชายฝั่งปลูกป่าชายเลน
- ทาสีโต๊ะ เก้าอี้นักเรียน รวม 120 กว่าตัว
- วาดภาพผนังโรงเรียน 3 x 6 เมตร
- ซ่อมแซม BBL 2จุด
- ทำสวนเกษตรปลอดสารพิษ
Day 1 :
ล่องเรือชมป่าชายเลน
วันนี้เรานัดกัน เพื่อจะไปล่องเรือ 9.30น. จิตอาสาทยอยมาด้วยรถส่วนตัว บางคนไม่มีรถมา แพนโชคดีได้รับการสนับสนุนจากบริษัทรถเช่า AVIS ให้ยืมรถมาขับเพื่อรับกลุ่มจิตอาสาที่ไม่มีรถส่วนตัว ก็สบายไปไม่ต้องวุ่นวายหารถเพิ่ม

อาจจะได้รับรถสายไปนิดเพราะจุดรับรถเปิด 8 โมง เมื่อเปิดทำการปุ๊บ พนักก็รีบจัดแจงรถมาให้อย่างรวดเร็ว และเนื่องจากวันหยุดยาว รถติดกว่าปกติ ทุกคนกว่าจะถึง เริ่มกิจกรรมล่องเรือก็ 10.30น. แล้ว แอบเฟลนิดหน่อยเพราะน้ำลงเยอะมาก

เรือล่องไปในหมู่บ้านปะมงได้ไม่ไกลนัก แต่ไม่เป็นไร ป่าชายเลนช่วงน้ำลดจะมีบรรดา ปลาตีน ปูก้ามม่วง ปูก้ามดาบ สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำต่างๆ ขึ้นมาให้เห็นเยอะพอควร

เราใช้เวลาล่องเรือครึ่งชั่วโมง กลับมาที่โรงเรียนเพื่อเตรียมทำกิจกรรมกับเด็กๆ ระหว่างนั้นก็มีกลุ่มจิตอาสาใจบุญติดต่อแพนมาเพื่อจะเลี้ยงอาหารกลางวันเด็กๆ มีของคาว ของหวาน เยอะแยะมากเลยค่ะ ตรงนี้ต้องขอบคุณพี่โอ๋พาครอบครัวมาทำอาหารเลี้ยงและยังบริจาคซื้อถุงขยะดำมาให้ใช้สำหรับเก็บขยะชายฝั่งอีก และอีกครอบครัวคือ คุณหนึ่ง จิตอาสาที่มากับเราค่ะพาคุณแม่มาทำอาหารเลี้ยงถึง 2 มื้อด้วยกัน

เข้ากิจกรรมเด็กๆ
เนื่องจากเราได้เงินทุนสนับสนุนมา แพนแบ่งเงินจำนวน 5000 กว่าบาท เพื่อนำมาซื้อของรางวัลแจกเด็ก พยายามหาร้านขายส่งเพื่อให้ได้ของที่ดีและประหยัดทุน เราจะได้ซื้อของจำนวนเยอะขึ้น ประกอบกับเพื่อนๆรอบข้างบริจาคตุ๊กตา ของแจกมาเพิ่ม บางคนก็บริจาคเป็นเงินให้มาซื้อของ ทำให้เรามีของขวัญมาให้เด็กๆเยอะพอสมควร

เนื่องจากวันที่แพนไปตรงกับโรงเรียนหยุด ผอ.เล่าว่าเด็กๆจะมาได้ไม่ครบเพราะส่วนใหญ่ต้องช่วยพ่อแม่ทำงานวันหยุด ปกติทั้งโรงเรียนมี 50 กว่าคน วันนี้มา 15 คน แพนก็เข้าใจ ทางทีมเก็บของบางส่วนไว้สำหรับเด็กที่ไม่ได้มา ส่วนคนที่มาก็ได้เล่นกิจกรรมแจกของกันสนุกสนาน

มีการจับคู่กับพี่จิตอาสาเป็นบัดดี้กัน แพนได้เห็นไอของความสุขจากตัวน้องๆและจากพี่จิตอาสา บางทีก็อดจะอมยิ้มตามไม่ได้ จริงๆนะ


เก็บขยะชายฝั่ง ปลูกป่าชายเลน
หลังจากจบกิจกรรม เราเบรคทานอาหารกัน พอเริ่มย่อย ก็เริ่มลุย!
แรกเริ่มที่แพนมาสำรวจโรงเรียนก่อนจะนำค่ายมาจัดที่นี่ แพนเดินไปยังป่าชายเลนหลังโรงเรียน บอกได้คำเดียวเลยว่าช็อกมากกกกก โหววว ขยะหรือนี่! ครูที่พาเดินเล่าว่า ที่ตรงนี้เมื่อน้ำขึ้นขยะจากข้างนอกจะถูกซัดเข้ามาด้านใน สุมกันจนเยอะขนาดนี้ แพนเลยรีบจดในลิสต์รายการที่จะทำเลยค่ะว่าเราต้องช่วยกันเก็บทิ้งแล้วแหละ

แม้วันนี้เราจะเก็บทิ้งกันได้จำนวนนึง แต่ก็ต้องยอมรับนะคะว่าตราบใดที่มนุษย์ยังไม่เลิกมักง่ายทิ้งขยะลงทะเล ยังไงซะพื้นที่ตรงนี้ก็ยังคงจะมีขยะล็อตใหม่เข้ามาอีกเรื่อยๆ ทามมมมจายยยย
แพนแบ่งคน 2 กลุ่ม แยกไปเก็บขยะและไปปลูกป่า มีเด็กๆและคณะครูคอยช่วย ทั้งเก็บขยะ ทั้งปลูกต้นโกงกาง

เมื่อทุกคนร่วมด้วยช่วยกัน ไม่นานภารกิจวันนี้ก็เสร็จสิ้น ทุกคนโชกชุ่มไปด้วยเหงื่อและเนื้อตัวเหนอะหนะจากทั้งฝนและเหงื่อน ปนๆกันไป

ปลูกป่าเสร็จ แพนกิจกรรมกวนๆให้ทุกคนได้ลงเล่นโคลน เละเทะกันไปวันนี้ ฮร่าาาาา และกลายเป็นคำถามค้างคาใจหลายๆคนว่า จะให้ลงไปเละโคลนทำไม?


อาบน้ำ แต่งตัวกันเสร็จแพนและทีมจิตอาสาบางส่วนก็ได้เดินไปยังดอนหอยหลอด ซึ่งอยู่ใกล้กับโรงเรียน ซื้ออาหารมานั่งทานด้วยกัน ดูวิวทะเลไปด้วย เมาท์มอยไปด้วย แหะๆ


Day 2 :
งานทาสีโต๊ะ เก้าอี้ จำนวน 120 กว่าตัว
วันนี้ตื่นเช้าหน่อย เราสั่งข้าวจากร้านอาหารแถวนั้นให้มาส่งเพราะอยากเพิ่มรายได้ให้ชาวบ้าน แพนนัดรวมเพื่อทำงาน 9 โมง แต่แพนและทีมจัดงานก็เริ่มลงมือทำงานกันตั้งแต่ 8 โมงแล้ว เมื่อจิตอาสาคนอื่นๆเห็นเลยทยอยมาช่วยงานตามๆกัน
เรียกว่าเป็นงานที่ดูง่ายๆ แต่เหนื่อยสุดๆไปเลย เพราะอะไรรู้มั้ยคะ เราต้องเริ่มจากการขัดสีเดิมออกให้ได้ประมาณนึง ทาสีใหม่ทับ จังหวะผสมสีนี่แหละ เมาทินเนอร์กันเชียว

บอกตรงๆนะคะเราก็สงสารบางคนมึนๆ จนต้องพักซักนิดถึงทำต่อ แต่ยอมใจมาก สปิริตสุดๆก้มๆ เงยๆ ทำกัน ปวดหลังแน่นอน เดิมทีแพนคุยกับผอ.บอกทาแค่หน้าโต๊ะพอ

ทาหน้าโต๊ะเสร็จช่วงบ่ายกว่าๆ ทีมจิตอาสาที่ทาโต๊ะเดินมาถามแพนต้องทาขาโต๊ะด้วยมั้ย แพนมองกลับไปยังโต๊ะ เก้าอี้ ที่วางทั่วสนาม สีสันสวยงาม แต่แอบขัดใจกับขาโต๊ะที่ยังดูเก่าอยู่ รู้สึกว่าทำไรแล้วควรทำให้สุดปะ แพนบอกทาขาโต๊ะด้วย จังหวะนี้แพนเห็นความเหนื่อยล้าของคนที่ถาม แต่แพนยังไม่ได้พูดอธิบายอะไร
วาดภาพผนังโรงเรียน
อีกหนึ่งงานของค่ายนี้คือการละเลงผนังโรงเรียน แพนได้เพื่อนที่เรียนเพาะช่างด้วยกัน สละเวลามาช่วยร่างดินสอ และมีน้องจิตอาสาอีกคนที่ไม่ได้เรียนศิลปะมาเลยแต่โคตรได้ใจเลยค่ะ พยายามทำ พยายามวาดให้ออกมาดีที่สุด ใช้เวลาสักพักก็เริ่มเป็นรูปร่าง เลยได้เกณฑ์คนมาช่วยลงสี


เริ่มแรกงานยังดูไม่เข้าที่ น้องๆกลัวจะเละ แพนบอกทำไปเลย ลุย! จนหมดวันเราได้งานประมาณ 40% แต่สิ่งที่แพนทำได้ ณ ตอนนั้นคือพูดให้กำลังใจคนที่ทำด้วยกัน “วันนี้งานเราทำได้เยอะเลยเนาะ พรุ่งนี้น่าจะแปปเดียวเสร็จ” ^.^
คุยกันภาษาใจๆ
จนเย็นเราให้ตัวแทนออกไปซื้อของกินมานั่งกินรวมกัน มื้อนี้เราหารเฉลี่ยช่วยกันออก เป็นคืนสุดท้ายที่เราจะได้อยู่ค่ายนี้ แพนคุยเปิดใจกับจิตอาสาทุกคน

– มีคำถามว่าทำไมต้องทาขาโต๊ะ ไม่เอาเวลาไปทำอย่างอื่น ฮร่าาาา
อย่างที่แพนบอกถ้าจะทำอะไรต้องทำให้สุด แพนให้คำเปรียบเทียบกับน้องที่ถามไปว่า เหมือนเราวาดรูปด้วยดินสอ จริงๆมันก็สวยแล้ว แต่พอลงสีงานมันดูสมบูรณ์ขึ้นไง
– ต่อด้วยคำถามอีกว่าค่ายนี้มีกฎอะไรบ้าง
แพนรู้สึกสะดุดกับคำถามนี้มากเลยนะ จนตอนนี้ก็ยังถามตัวเองอยู่ว่าทำไมเราไม่ตั้งกฎอะไรเลย ถ้าแพนจะตอบอะไรได้ คงเพราะแพนไม่ชอบการมีกฎและทำไมแพนจะต้องตั้งมันขึ้นมาด้วย ถ้าสิ่งที่แพนทำอยู่นี้ ทำให้หลายคนรู้หน้าที่ตัวเอง งานดำเนินไปได้อย่างดี เราต้องมีกฎด้วยหรือ
และคำถามอื่นๆ เราได้เปิดใจ เปิดอกคุยกัน แพนว่าเสน่ห์อีกอย่างของการที่แพนจัดค่ายไปไหนก็ตาม มันคือการที่เราได้มิตรภาพที่ดี ได้รู้จักมุมมองจากคนที่เพิ่งเจอหน้านี่แหละ ประสบการณ์ชีวิต!
Day 3 :
เก็บรายละเอียดงานที่ทำ
แอบใจหายเหมือนกันนะคะ วันสุดท้ายแล้ว วันนี้เราต้องเก็บงานทั้งหมด ทีมทาสีโต๊ะก็เติมสีนิดหน่อย

ทีมวาดรูปก็ทำต่อไป วันนี้แพนเริ่มงานเร็วขึ้นเพราะกลัวผนังไม่เสร็จ จังหวะโต๊ะ เก้าอี้ เรียบร้อยแล้ว คนเลยมาช่วยเยอะ

พอหลายเริ่มอย่างลงตัว ทีมจิตอาสาทุกคนขยันขันแข็งกันมาก เวลายังพอมี เราก็ได้งานเพิ่มค่ะ ทาสีล้อจักรยานที่มันดูเก่ามาก และซ่อมแซม BBL ที่สึกหรอ


จวบจนงานทุกอย่างเสร็จสมบูรณ์ภายในเวลาบ่าย 3 โมง ปรบมือดังๆให้จิตอาสาทุกคนเลยค่า งานไวมาก และยังออกมาดูดีด้วยนะเนี่ย ฮร่า
มีอีกทีมที่แพนไม่พูดถึงไม่ได้เลย ทีมเจ๊น้ำจิตอาสาที่เคยไปทำงานค่ายด้วยกัน พาคนมาช่วยสร้างแปลงเกษตรเพื่อการเรียนรู้
ทีมงานที่โคตรขยัน ทนแดด ทนร้อนมาก ทั้งผสมดิน พรวนดิน ปลูกพืช และยังมีไอเดียเพิ่มด้วยการทำ BBL ที่กระถางอีก


เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งความช่วยเหลือที่สร้างสิ่งดีๆให้โรงเรียนและเด็กๆเพิ่มขึ้นนะเนี่ย ขอบคุณค้าบบบบ
ตอนจบของบันทึก ทำดีก่อนตาย ค่ายอาสาพัฒนา รร. บ้านฉู่ฉี่
ถ้าจะให้แพนเขียนบทความสาธยายความรู้สึกและเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น ใน 2 วัน 3 คืนนี้ แพนว่าแพนคงได้พิมพ์จนกินที่หน้าเว็บไซต์ไปเยอะแน่ ฮร่าาาา
ก่อนกลับบ้านแพนได้สรุปงานและชี้แจงค่าใช้จ่ายทั้งหมด เราได้รับเงินสนับสนุนจากโครงการมา รวมกับเงินบริจาคจากผู้ใจบุญอื่นๆ ประมาณ 2 หมื่นกว่าบาท เสียค่าสี อุปกรณ์ทำงาน และของรางวัลแจกเด็กๆ หมื่นนิดๆ สุดท้ายเงินเหลืออีก 7 พันกว่าบาท

ความประทับใจช็อตสุดท้าย แพนถามทุกคน จะให้แพนเฉลี่ยเงินคืนหรือให้มอบส่วนนี้แก่โรงเรียน….. ไม่มีใครอยากได้คืนค่ะ และผอ.เองก็ไม่กล้ารับไว้ ความตื้นตันที่เราได้รับจากทั้งสองฝ่าย ผู้ให้ก็พร้อมจะให้สุดใจ ผู้รับเองก็อิ่มใจที่ได้รับจนล้น
คล้อยหลังไปแพนเห็นผอ.ปาดน้ำตา พร้อมเล่าถึงเรื่องราวที่เคยติดต่อคนมาวาดผนัง ราคาสูงมาก วันนี้ได้รับแล้ว แถมให้เด็กนักเรียน มีโต๊ะ เก้าอี้ตัวใหม่ มีแปลงเกษตรได้เรียนรู้ มีมุม BBL เสริมการเรียนรู้ มีผนังการ์ตูน มีความประทับใจหลายอย่าง……. ฮั่นแน่! แพนแอบเห็นจิตอาสาบางคนก็น้ำตาคลอเหมือนกันนะ >.<




ส่งท้ายอีกหน่อย……………….
คงมีคำถามคาใจเหล่าจิตอาสาหลายท่านว่า ค่ายนี้ทำไมดูชิลจัง ดูไม่มีแพลน ไม่เข้มงวด ไม่มีกฎเกณฑ์ แพนบอกให้นะคะว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันเป็นแพลนของแพนทั้งหมด ไม่มีสิ่งไหนที่แพนทำโดยไร้เหตุผล แพนทำค่ายไม่อยากให้ใครต้องมาเครียด เรามาด้วยใจควรต้องได้รับความสบายใจกลับไป และที่แพนให้ทุกคนลงเละโคลนทำไมในวันแรกหลังปลูกป่าเสร็จ แพนตอบแบบจริงๆจังๆเลยนะ ไม่ได้จะแกล้งหรอกค่ะ แค่ลองใจ อยากรู้ว่าคนที่เพิ่งเจอกันอย่างๆเราๆเนี่ย จะเชื่อใจแพนมั้ย จะพร้อมเละ พร้อมเลอะ พร้อมลุยไปด้วยกันแค่ไหน เมื่อจบค่าย แพนได้รู้แล้วค่ะว่าทุกคนคือ “เดอะทีม”

แพนจะเรียกสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดในค่ายนี้ว่า “ความรู้สึกพิเศษ”
บทความ : FB page ไปก่อนตาย I’m Traveler https://www.facebook.com/Paikontay/
Cr. ภาพและวีดีโอจากจิตอาสาทุกคน (แพนไม่ปรับแต่งภาพ เพราะอยากให้เห็นความจริงในทุกฉาก จากมุมมองของจิตอาสาทุกคน)
Cr. ตัดต่อวีดีโอ นิรุช คงสมจิตต์