ทริปเที่ยวเกาะพยาม โดยไม่ต้องพยายาม (เพจสูงวัยลุยไปทั่ว)
ทริปเที่ยวเกาะพยาม โดยไม่ต้องพยายาม (เพจสูงวัยลุยไปทั่ว)
ทีมป้าเกษสูงวัยลุยไปทั่ว
ที่ป้าเกษตั้งชื่อทริปแบบนี้ เพราะหากพูดถึงจังหวัดระนอง สถานที่อีกแห่งที่ป้าเกษอยากมามาก คือ “เกาะพยาม” อยากไปเห็นธรรมชาติที่ยังไม่มีการปรับแต่งใดๆ และเป็นจังหวะที่ดีที่สุดในการไปเที่ยวหลังการปลดล็อก
แต่ทุกครั้งที่มาจังหวัดระนอง กลับไม่เคยมาถึงซะที หรือเป็นเพราะความพยายามของป้ายังไม่มากพอ หรือไม่ก็มากเกินไป จึงไปไม่ถึง ครั้งนี้ เลยตั้งใจที่จะมาแบบสบายๆ ไม่ต้องรีบร้อน ถือว่าได้มาพักผ่อนแบบชิลล์ๆ

มาท่องเที่ยวแบบ New Nomal ที่อยากจะทิ้งระยะห่างทางสังคม เพื่อเข้าหาธรรมชาติมากขึ้น หลีกหนีจากความวุ่นวายในตัวเมือง หันมาเที่ยวแบบใกล้ชิดธรรมชาติ ห่างไกลผู้คน และยิ่งไปกว่านั้นการที่คนหยุดเที่ยวไปนานครั้งนี้ถือว่าเป็นการมาปรับร่างกาย ให้พร้อมสู่ทริปแบบลุยๆ ตามสไลต์ของ ป้าเกษสูงวัยลุยไปทั่ว ต่อไป …

เริ่มต้นการเดินทางด้วยสายการบินที่ใส่ใจ สะอาด ปลอดภัยในทุกขั้นตอน
ตั้งแต่ในสนามบินดอนเมือง มารับตั๋วที่นั่งของสายการบินนกแอร์ ไปจนถึงบนเครื่องบิน มีการเว้นระยะห่างที่นั่ง เว้นระยะห่างในการเข้าคิวจองตั๋ว เจ้าหน้าที่มีการแต่งกายที่รัดกุม ใส่หน้ากากอนามัย ถุงมือ บนเครื่องบินก็นั่งเว้นที่ว่าง

มีการฆ่าเชื้อก่อนทุกครั้ง งดเสริฟและห้ามนำอาหาร เครื่องดื่ม ขึ้นมาทานในเครื่อง สิ่งเหล่านี้ก็ทำให้เราเดินทางได้อย่างอุ่นใจ ซึ่ง สายการบินนกแอร์ เน้นย้ำเรื่องมาตรการป้องกันระบาดของโควิด-19 อย่างสูงสุด

ลงเครื่องปั๊บ หลังจากรับกระเป๋าเรียบร้อย สิ่งแรกที่มองหาเมื่อออกจากประตูมาคือ เคาเตอร์ AVIS รถเช่าค่ะ ซึ่งบริษัท AVIS Thailand มีรถเช่าที่หลากหลายรุ่น หลากหลายแบบไว้คอยบริการ อีกทั้งยังมีรถหลายขนาด ให้คุณเลือกใช้ตามความต้องการ

มีบริการทุกสนามบินที่เราเดินทาง สามารถจองรถหรือติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่ เบอร์ Call center 02-251 1131 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ภูเขาหญ้า
เมื่อเรียบร้อยเริ่มเดินทางค่ะ ยังพอมีเวลาเหลือๆที่จะไปท่าเรือเพื่อข้ามไปเกาะพยาม เห็นภูเขาหญ้าเขียวซึ่งน่าจะมีฝนก่อนที่ป้าจะลงเครื่อง เลยเลี้ยวรถแวะกันที่ภูเขาหญ้าก่อนเข้าไปหม่ำๆอาหารกลางวัน

ภูเขาหญ้าเป็นกลุ่มภูเขาลูกเตี้ย ๆ ปกคลุมด้วยหญ้าสีเขียวขจีในฤดูฝน โดยที่ไม่มีต้นไม้ใหญ่อยู่เลย บางคนจึงเรียกว่าภูเขาหัวล้าน ส่วนในหน้าร้อนทุ่งหญ้าจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองทอง ปกติมาระนองก็หลายครั้งไม่เคยได้บรรยากาศภูเขาหญ้าเขียวๆ เลยได้แอ๊กท่าถ่ายรูปเก๋ ๆ ไปหลายรูปเลยค่ะ

ร้านอาหารคุ้นลิ้น
จะบอกว่ามากินซ้ำๆอีกแล้ว ก็นะ .. อาหารทุกอย่างมันช่างอร่อย คุ้นลิ้น จนอดใจไม่ได้ที่ต้องแวะมากินทุกครั้งที่นี่ .. ร้านคุ้นลิ้น รางวัลการันตีของร้านที่เพิ่งได้รับล่าสุดคือ รางวัล SHA Awards หรือ รางวัลมาตรฐานท่องเที่ยวมั่นใจปลอดภัยด้วยสาธารณสุข เป็นร้านที่ 54 ของประเทศไทย และเป็นร้านแรกของจังหวัดระนอง

ถ้าชื่นชอบอาหารใต้ รสชาติท้องถิ่นเมืองระนอง ไม่ว่าจะเป็น ปลาทูผัดกะปิ ผัดสะตอกุ้งสด หมูค้อง น้ำพริกไข่ปลา ปูหลน โอ๊ย จาระไนไม่หมด แต่เมนูสุดๆสำหรับป้าต้องสั่งทุกครั้ง แกงส้มปลาริวกิวที่คนไม่กินเผ็ดอย่างป้าต้องยอม กินไป เช็ดน้ำตาไป 555 เพราะเมนูทุกอย่าง ล้วนคัดสรร จัดว่าเด็ด พาใครมาก็ประทับใจในรสชาติ ยิ่งไปยืน ผัดใบเหลียงใส่ไข่ ด้วยตัวเอง ยิ่งชอบใจ

นอกจากเมนูของคาวแล้ว เมนูเครื่องดื่มก็จัดจ้าน จิ๊ดจ๊าด ไม่แพ้กันคือ น้ำใบเหลียงปั่น .. ที่ต้องสั่ง ไม่งั้นถือว่าพลาดค่ะ

ที่นี่มีสารพัดมุมให้ถ่ายรูปตั้งแต่หน้าร้านจนเข้ามาถึงในร้าน ในขณะที่คุณนั่งรออาหารก็มีอะไรๆน่ารักให้ทำ อย่างเช่นการเขียนข้อความลงบนตุ๊กตาขอฝน และที่สร้างสรรค์สุดๆในตอนนี้คือการเอาน้องหมีตัวโตๆ มานั่งเป็นเพื่อนเพื่อนเว้นระยะห่างตามแบบ New Normal อีกด้วย สามารถสำรองโต๊ะสั่งอาหารไว้ก่อนล่วงหน้าได้ที่ ร้านอาหารคุ้นลิ้น : 077 822 863

บ่ายสองได้เวลาลง Speed Boat ไปเกาะพยามแล้วค่ะ ซึ่งการเดินทางจากท่าเรือมี 2 แบบ ไปแบบเรือเมล์ก็ถูกหน่อย คนละ 200บาท/คน แต่นั่นคือ คุณต้องชิลล์นะ เพราะใช้เวลาร่วม 2 ชม.

แต่ถ้าอยากไปใช้เวลาบนเกาะให้มากขึ้น ยอมเสีย 350 บาท/คน ลง Speed Boat ใช้เวลาแค่ 30 นาที ป้าใช้บริการของ พี่ก้อง เบอร์ 089 872 5133 ใครมีรถส่วนตัวมาก็มีที่จอดให้ หรือจะให้พี่ก้องรับ-ส่งถึงสนามบินก็ได้ค่ะ สนนราคาตรงนี้ติดต่อกันเองเลย

กินอิ่มพอได้มาลงเรือก็หลับสิค่ะ เหมือนจะงีบไปซักพักก็ถึงท่าเรือเกาะพยาม ทริปนี้ป้าเกษ เช่ามอเตอร์ไซค์ ขับไปเที่ยว ยังจุดต่างๆของตัวเกาะค่ะ ก็ต้องขับด้วยความระมัดระวัง เพราะว่าบางจุดทางก็จะเป็นลูกรังแฉะๆ เพราะมีฝน ด้วยสนนราคา 150/วัน น้ำมันเติมเอง เติมไป 3 ขวด พอดีกะ 3 วันที่ไปเลยค่ะ ป้าเกษใช้บริการ ร้านพี่ NAN SHOP มอเตอร์ไซค์ ที่อยู่ใกล้กับท่าเรือ สามารถติดต่อได้ที่ 084 8497853

พี พี แลนด์บีช อีโค้ รีสอร์ต ที่พักสะอาด ปลอดภัย
ป้าเลือก พี พี แลนด์บีช อีโค้ รีสอร์ต ซึ่งเป็นบังกะโลติดหาด ซึ่งบ้านพักอยู่ท่ามกลางต้นกาหยู หรือ ต้นมะม่วงหิมพานต์ มีความร่มรื่น เงียบสงบ มีความเป็นธรรมชาติอย่างสุดๆ

ระเบียงที่พักมีเปลให้นอนชิลๆ นึกเบื่อก็เปลี่ยนชุดลงไปเดินย่ำทรายที่นุ่มเท้าตรงหาดหน้าบ้านที่เดินไม่กี่ก้าวก็ถึงแล้ว โดยมีเจ้าถิ่น สอง-สามตัว เดินนำเป็นเพื่อน อยากบอกดังๆว่า แสงยามเช้าที่ พีพี แลนด์บีช ฯ อ่าวแม่หม้ายนี้สวยสุดๆ อาจจะรู้สึกว่ามันสะอาดกว่าตอนยังไม่มีโควิดซะอีก

นอกจากนี้ หากยังมีเวลาก็มาลงสระว่ายน้ำเล็กๆ พร้อมออกกำลังจากห้องฟิตเนสที่อยู่ติดสระเลย นับว่าเป็นที่พักที่คุ้มค่ากะการเข้าพักจริงๆ เรื่องการรักษาความสะอาดนั้นทางที่นี่เน้น ทั้งฉีดยาฆ่าเชื้อ ล้างแอร์ ทำความสะอาดเครื่องนอน ข้าวของเครื่องใช้ในห้องเป็นอย่างดี ซึ่งสัมผัสได้จากกลิ่นสะอาดๆ ไม่มีมีความอับชื้นใดๆ

ตอนเช้ามีอาหารเช้าอร่อยตามเมนูให้เลือกอีกด้วยค่ะ ไม่ว่าเป็นแบบแซนวิชไส้เยอะๆแบบนี้ หรือ เป็นแบบสไตล์ออมเล็ทแสนอร่อย 3 วัน 2 คืนกะที่นี่ แสนสุขจริงๆ หากใครชอบที่พักติดทะเล เงียบสงบ บรรยากาศแบบส่วนตัวแบบนี้ ป้าเกษขอแนะนำที่นี่เลย ติดต่อสอบถามกันได้ที่ พี พี แลนด์บีช อีโค้ รีสอร์ต : 081 678 4310

วัดเกาะพยาม
มาเที่ยวเกาะที่วัดเกาะพยามอันโดดเด่นด้วย Unseen โบสถ์กลางทะเล ซึ่งตั้งอยู่ที่ท่าเทียบเรืออ่าวแม่หม้าย เป็นเส้นทางที่จะไปทีพักที่พีพี แลนด์บีชฯ ด้วย

ทางเดินไปโบสถ์กลางน้ำเป็นสะพานไม้ที่ทอดยาวยื่นไปในทะเล ภายในโบสถ์ประดิษฐานพระพุทธรูปปางลีลา ประทับหันหน้าออกสู่ทะเล เดินสะพานไม้มาอีกนิดจะเห็น พระบรมราชานุสาวรีย์ พลเรือเอก พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ตั้งอยู่

ช่วงจังหวะดีน่าจะซัก 11 โมง-บ่ายโมง ที่หากหามุมดีๆ จะเห็นเหมือนโบสถ์ลอยอยู่กลางทะเลจริงๆ เพราะน้ำทะเลขึ้นสูง

ป้าไปถึงตอนน้ำทะเลยังไม่หนุนสูง เลยได้เห็นวิถีชีวิตของชาวบ้านที่มาหาหอยลาย ที่เค้าขูดๆผิวทรายกว่าจะเจอตัวหอยลาย ก็คงใช้เวลาพอสมควรละ แล้วกว่าจะได้ 1 กิโลนี่ 60 บาท นี่ .. โอ๊ย คราวนี้สั่งผัดหอยลายกินจะไม่บ่นว่าแพงอีกแล้ว เพราะมันไม่ใช่หาง่ายๆ

หินทะลุ ธรรมชาติสร้างสรร ความงดงามที่ลงตัว
แว้นมอเตอร์ไซค์กันไปต่อทางอ่าวเขาควายซึ่งเป็นจุดที่ทุกคนที่มาเกาะพยามต้องไปถ่ายรูป ซึ่งที่นี่ป้าให้มาสองรอบ ช่วงสายๆจะมีน้ำทะเลขึ้นมีคลื่นซัดหิน กะช่วงเย็น เพราะที่นี่ยามเย็นจะเห็นพระอาทิตย์ตกสวยๆ หากฟ้าท่านเป็นใจไร้ซึ่งเมฆฝน

หินทะลุ อ่าวเขาควาย อีกหนึ่งเสน่ห์ของเกาะพยาม บริเวณชายหาด มีกองหินรูปร่างแปลกตาจำนวนมาก ที่ถูกน้ำกัดเซาะเป็นช่องโพรง เหมือนซุ้มประตู หรือช่องหน้าต่าง เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ที่ห้ามพลาด
ขับมอเตอร์ไซค์มาต้องระวังตรงเมื่อเลี้ยวผ่านทางแยกขวามือที่จะเลี้ยวมายังตัวหาดค่ะ ทางเป็นลูกรังหน่อยๆ หากฝนไม่ตกก็ไม่เป็นไร ค่อยๆขับมาช้าๆค่ะ

ร้านโรตีเจ้าอร่อย (บังยา)
ใครจะรู้บ้างนะว่า ป้าเกษเป็นชอบกินโรตีมากๆ ไปที่ไหนก็ช่าง สายตาจะซอกแซกหาโรตีกิน ยิ่งโรตีที่ขายบนเกาะนะ แพงก็ซื้อกินค่ะ บางเจ้าก็ไม่อร่อย บางเจ้าอร่อยจนอยากกลับไปซื้อกินอีกครั้ง ต้องแบบแป้ง 2 ก้อน 1 แผ่น กรอบนอกนุ่มใน ตบๆ ราดนมอย่างเดียว แล้วใส่กระดาษห่อม้วนๆ แล้วกัดกินนั่นแหละ ออริจินอล ใช่เลย แต่เด็กๆสมัยนี้ เค้าแปลงร่างโรตีใส่ นั่น โน้น นี่ เยอะไปหมด เสียรสชาติความเป็นโรตี แต่แม่ค้าได้มูลค่าเพิ่ม

ที่เกาะพยาม หากขับมอเตอร์ไซค์ออกมาจากหินทะลุ สู่ถนนคอนกรีต คอยมองด้านขวามือ ที่มีร้านขายอาหารหลายๆร้านนั่นแหละ บังยามาเปิดร้านรอรับลูกค้าตั้งแต่บ่ายโมง ไปจนถึงมืดเลย ในราคาตั้งแต่ 20 บาทขึ้นไป บังยาคุยสนุก ป้าได้รู้เรื่องวิถีชีวิตคนบนเกาะพยามก็จากบังยานี่เลย

ต้นกาหยู เม็ดกาหยู
เม็ดกาหยู ก็คือ เม็ดมะม่วงหิมพานต์ที่เราคุ้นชื่อ คุ้นหู กินกันอร่อยนั่นแหละ และเพิ่งรู้ว่า กาหยููเป็นพืชเศรษฐกิจของจังหวัดระนอง ปลูกมากที่เกาะพยาม เกาะช้าง อำเภอเมืองระนอง และสายพันธุ์ที่เป็นพันธุ์พื้นเมืองซึ่งนิยมปลูกกันมากคือ พันธุ์เกาะพยาม โดยมีพื้นที่ปลูกถึง 51,137 ไร่่ จากพื้นที่ทั้งหมดของจังหวัดระนอง 68,801 ไร่ ถือได้ว่าเกือบเต็มพื้นที่ของจังหวัดระนองเลยทีเดียว

กาหยู หรือ มะม่วงหิมพานต์ ถ้านำมาคั่วกะข้าวสารด้วยเตาถ่าน และกะเทาะเปลือกออกเหลือเพียงเมล็ดภายใน ซึ่งกำลังสุกพอดี จะมีกลิ่นหอมมาก สามารถนำมาประกอบอาหารได้หลายชนิด เช่นแกงไตปลา น้ำพริกผัดพริกกาหยู หรือนำมาอบแห้ง เพื่อเก็บไว้นานๆได้ เป็นของฝากที่สำคัญอีกอย่างของจังหวัดระนอง

ดังนั้นในทุกวันที่ 22 กุมภาพันธ์ ของทุกปี ที่เกาะพยามจะกำหนดให้เป็นการจัดประเพณีวันกาหยูเกาะ โดยจะมีการประกวดเมล็ดกาหยูคุณภาพ การแข่งขันคั่วกาหยูโบราณ การแข่งขันกะเทาะกาหยู และการประกอบอาหารจากผลกาหยู ซึ่งหากใครอยากมาชมก็ให้มาในช่วงเวลานี้เลยค่ะ

ในทริปนี้ ป้าเกษต้องขอขอบคุณ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ที่ได้ให้ป้าเกษ จากเพจสูงวัยลุยไปทั่ว ได้เดินทางมาที่จังหวัดระนอง ได้มานำเสนอมุมมอง และเรื่องราวการท่องเที่ยวผ่านคนสูงวัยคนนี้ ป้าเกษเชื่อเสมอว่า หากป้าเกษมาได้ทุกคนก็ต้องมาได้เช่นกัน ออกมาเที่ยวเมืองไทยกันเถอะค่ะ ไม่ออกมาเที่ยวตอนนี้ ถือว่าพลาด เพราะเมืองไทยยังมีอะไรให้เราออกมาค้นหาอีกมากมาย